8.16.2558

[Oneshot Utapri] Kill hand:♠ (Camus x Masato)

Fan-fiction Utapri

Title :
 
Kill hand: ♠ 
Pairing : Camus x Masato
Warning :  AU
Rate : 18+

Note : 
oneshot นี้จะเป็นฉากเดียวกับในแฟนฟิคเรื่อง Kill game ตอนที่ 3 จงอย่าหาความเชื่อมโยงใดๆกับตอน3จริงๆเลย5555 จะเรียกว่าเป็นแฟนฟิคของแฟนฟิคอีกทีก็คงดูซับซ้อน(และสั้นเกินไป) เอาเป็นว่าเป็นหนึ่งในพล็อตที่คิดเอาไว้แต่ไม่ได้เอามาแต่งจริงๆในเรื่องหลัก สาเหตุก็เพราะไม่สามารถจะนำไปเชื่อมกับเนื้อเรื่องได้เท่าไหร่นักทั้งด้านช่วงเวลาและเหตุผลการกระทำของตัวละครที่ได้วางไว้แล้วก่อนหน้า

ส่วนใครก็เพิ่งเปิดมาเจอตอนนี้พอดีแนะนำให้ลองอ่านเรื่องหลักดูก่อนนะคะ >เรื่องหลัก<





            สองเข่าที่แยกออกค้ำกายรองรับน้ำหนักที่โถมลงใส่ร่าง เสียดสีไปกับผ้าปูเตียงเนื้อละเอียดจนเกิดเสียง หนุนใบหน้าซบลองกับสองแขนเพื่อซ่อนความแดงซ่านบนใบหน้าไม่ให้คนใจร้ายได้เห็น เส้นผมสีน้ำเงินชื้นด้วยเหงื่อปลิวไหวไปตามแรงกระทั้นเข้าหาที่ข้างหลัง ฮิจิริคาวะเม้มริมฝีปากแน่นกลั้นไม่ให้เสียงร้องประหลาดนั่นหลุดออกมา

               กลั้นไว้ทำไมเล่า..ไม่ใช่ว่าเจ้าร้องเรียกชื่อข้าอยู่ทุกค่ำคืนหรอกรึ?ชายผมบลอนซ์พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน รอยสักโพธิ์ดำแนบลงกับผิวที่บั้นเอวก่อนจะใช้มือดึงร่างผู้ที่อยู่ในท่าคลานให้ถอยกลับมารับกายเข้าไปจนสุด

               อึก..!!” ความจุกแล่นเข้ามาจนน้ำตารื้น

               หึ.. บังอาจใช้คนอื่นเป็นตัวแทนข้าอความารีนฉายแววขุ่นเคือง กัดฟันอย่างกริ้วโกรธกระแทกซ้ำใส่อย่างไม่สนใจว่าร่างนั่นจะรับได้ไหวหรือไม่

เรียวขาขาวถูกตีตราด้วยรอยจูบลามจนถึงก้นกบและแผ่นหลัง เนื้อตัวสั่นระริกร้อนวูบวาบไปจามสัมผัสที่ถูกมอบให้..จะกล่าวว่าไม่เต็มใจก็ไม่เชิงนัก แต่จะบอกว่ายินยอมก็ไม่ถูกเสียทีเดียว

               นี่ล่ะคือตัวตนที่แท้จริงของข้าที่เจ้าอยากจะรู้จักนัก

ทุกคำพูดกรีดลึกลงในอกความรู้สึกดีๆที่เลยหลงเหลือถูกฉีกออกให้ขาดวิ่น ยิ่งตอกย้ำในความเขลาของตนเอง..

ความอ่อนโยนแสนจอมปลอมพวกนั้น..ทำให้เขายอมเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ฮิจิริคาวะกัดริมฝีปากตนแน่นจิกเล็บลงขยำผ้าปูเตียงหวังระบายควมเจ็บแปลบที่แล่นไปทั่วทั้งร่าง เปลือกตาปิดลงขังน้ำตาใสไม่ให้ไหลออกมา ถ้อยคำทำร้ายจิตใจถูกเอ่ยให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา เขานึกอยากจะปิดหูตัวเองเสียเหลือเกินแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรได้มากก็ตามที

แต่แล้วเสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้สายลับหนุ่มต้องหยุดการเคลื่อนไหวกลางคัน ฮิจิริคาวะเหลียวหลังไปมองก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังวุ่นอยู่กับการกดรับสายเขาจึงตั้งใจจะอาศัยจังหวะนี้ในการหนี

               สวัสดีครับ ใช่ครับ กระผมเลขาฯของท่านประธานฮิจิริคาวะพูดสายอยู่ครับโทนเสียงแข็งกร้าวนั่นแปรเปลี่ยนเป็นสุภาพนุ่มนวล

คามิวรู้สึกได้ถึงร่างที่พยายามจะเขยิบออกห่างตัวจึงใช้แขนข้างหนึ่งอ้อมไปรั้งตัวไว้แล้วดึงกลับเข้ามาให้ชิดตามเดิม นัยน์ตาตวัดจ้องแบบไม่พอใจพลางกระแทกกายเข้าหาคล้ายเป็นการลงโทษ

               อะ..!” ฮิจิริคาวะที่ตั้งตัวไม่ทันหลุดเปล่งเสียงครางออกมาก่อนจะรีบยกมือขึ้นกุมปากตนเองไว้

               ขอเรียนสายกับท่านประธานหรือครับ อ่า..ผมเกรงว่าตอนนี้ท่านประธานจะไม่สะดวกพูดสายเสียเท่าไหร่คามิวโกหกหน้านิ่ง เหลือบจ้องท่านประธานที่เริ่มจะให้ความสนใจกับบทสนทนา

พอถูกรู้ทันว่ากำลังจ้องรอโอกาสฮิจิริคาวะก็ไม่รีรอที่จะพุ่งตัวเข้าหาหมายจะแย่งโทรศัพท์จากมืออีกคนมาให้ได้อย่างรวดเร็ว..แต่ก็ไวได้ไม่เท่าสายลับมืออาชีพ สองแขนถูกรวบล็อคให้ไพล่หลังไว้ด้วยเพียงมือเดียว ด้วยสภาพตัวเขาในตอนนี้เป็นการยากที่จะพยายามดิ้นให้หลุด

เดี๋ยวก่อน..
เขาไม่จำเป็นจะต้องแย่งมือถือมาคุยเองอย่างเดียวนี่..

               ช่วยด้วย!ฮิจิริคาวะตะโกนออกมาสุดเสียงหวังจะให้ดังมากพอจนปลายสายได้ยิน

คามิวเบิกตากว้างอย่างนึกไม่ถึงว่าจะมาไม้นี่ แต่ไม่ใช่ว่าจะแก้เกมไม่ได้เสียทีเดียว

               สักครู่นะครับโทรศัพท์ถูกวางให้หนีบไว้ระหว่างใบหูกับหัวไหล่ ฝ่ามือรีบเอื้อมไปตะครุบปากที่กำลังจะส่งเสียงดังให้ปิดสนิท เคลื่อนเอวเข้าหาอีกครั้งหมายให้ร่างที่นอนดิ้นอยู่สิ้นฤทธิ์ ชายหนุ่มกลั้นเสียงครางไว้ในลำคอกันไม่ให้หลุดออกดังเข้าไปในโทรศัพท์

               พอดีว่าท่านประธานกำลังติดธุระด่วนอยู่น่ะครับ หากจะฝากเรื่องไว้ที่ผมแทนจะสะดวกหรือเปล่าครับคามิวโน้มตัวลงเข้าชิดร่างตรงหน้า จงใจเอ่ยพูดด้วยโทนเสียงแบบเดียวกับช่วงที่ยังคงทำงานอยู่ในออฟฟิศ สังเกตเห็นสีระเรื่อที่ซึ่งลามจนแดงไปทั้งใบหู

               ได้ครับ.. แล้วทางเราจะติดต่อกลับไปครับเสียงหอบครางต่ำดังออกมาหลังจากที่ปลายสายได้กดวางหูไปแล้ว มือถือที่ถูกแนบไว้ร่วงตกลงบนเตียงนุ่มเมื่อลำคอเอียงให้กลับมาตั้งตรงตามเดิม คามิวแลบลิ้นเลียริมฝีปากพลางเร่งจังหวะขยับกายให้เร็วขึ้นจนสปริงที่รับน้ำหนักของคนทั้งสองส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด

นิ้วยาวสอดไปยังรอยแยกของกลีบปากให้เผลอออก ในทีแรกฮิจิริคาวะหมายที่จะกัดให้เสียเลือดซึมแต่สุดท้ายก็ทำไม่ลง


ทั้งๆที่คนๆนี้..ทำร้ายเขามากมายขนาดนี้แท้ๆๆ

สัมผัสอุ่นของหยดน้ำตาร่วงแปะลงบนหลังมือ คามิวหยุดชะงักแทบจะทันที คนผมบลอนซ์ชะเง้อจ้องหน้าที่พยายามซุกหลบ ผละฝ่ามือที่กุมปากนั่นออกมาก่อนจะจับเชยคางดันขึ้นมองให้มองเห็นได้เต็มตา

               ...ย..อย่ามองผม..ในตอนนี้เลยนะครับฮิจิริคาวะเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆพร้อมทั้งเลื่อนแขนตามมาบังใบหน้า เพราะเท่านี้เขาก็รู้สึกสมเพชตัวเองมากเกินพอแล้ว

คนใจร้ายน่ะหรือจะยอมฟัง คามิวคว้าข้อมือกดให้แนบลงกับเตียงเลื่อนหน้าตามเข้าประชิดจ้องเพ่งมองดวงหน้าซึ่งอาบน้ำตาใส

               ข้าห้ามเห็นแต่จินงูจิเห็นได้อย่างนั้นสิ?ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่ต้องการที่จะประชด คามิวไม่ได้รอให้อีกฝ่ายแก้ต่างจึงเอ่ยต่อเพื่อตัดบท

               แต่ถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์จะมาห้ามไม่ให้ข้าทำอะไรทั้งนั้น เพราะหากข้าต้องการข้าก็จะทำ!” สองมือคว้าสะโพกจับให้มั่นโถมกายเข้าใส่ด้วยอารมณ์รุนแรง

แน่นอนว่าไร้ซึ่งความอ่อนโยนในสัมผัสที่ถูกมอบให้ เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ขืนบังคับ เอาแต่ใจ ซึ่งแตกต่างกับสัมผัสของจินงูจิโดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นเช่นนั้นแล้ว..ล้วนทำให้เขารู้สึกดี..ถึงจะดีในคนละแบบก็ตาม


นั่นล่ะ..คือสิ่งที่ทำให้เขายิ่งฉงนใจ


กับคนหนึ่งที่มีความรู้สึกให้..แต่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ

ส่วนอีกคนที่ไม่อยากแม้แต่จะผูกมิตรด้วย..กลับมอบคำหวานช่วยปลอบโยน



               ฮ-..ฮะ..!!” ฮิจิริคาวะกระตุกเกร็งตัวเรียวขาอ่อนล้าพับลงอย่างหมดแรง ใบหน้าแดงก่ำยามรู้สึกถึงความอุ่นที่ปลดปล่อยภายในกาย


ชายหนุ่มฟุบหน้าลงกับเตียงหอบหายใจถี่ ความอึดอัดถูกถอดถอนออกไปแล้ว ลมเย็นปะทะเข้าที่แผ่นหลังเปลือยหลังจากร่างของคามิวลุกออกไปจากเตียงทิ้งให้ฮิจิริคาวะนอนอยู่คนเดียวโดยไม่ได้เอ่ยคำลาใด


เขาเอง..ก็ไม่กล้าที่จะเงยมองตามอีกคน กลัวเหลือเกินที่จะต้องเห็นสายตาที่มองมาด้วยความเวทนานั่นอีก





แบบนี้แหละ..ดีที่สุดแล้ว



เพราะอย่างน้อย..ผมก็ได้รู้ถึง..ตัวตนที่แท้จริงของคุณ





-END-

1 ความคิดเห็น:

  1. แววววววววว คามิวใจร้ายอ่ะะะะะะ

    ถึงจะบอกว่าสั้น แต่ก็ยังแอบเสียดายที่ไม่ได้เห็นที่มาที่ไปของเหตุการณ์ในตอนนี้มากกว่าน่ะ ฮรึก //จิ้มนิ้ว

    ยังไงก็ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆอีกมื้อ(?)นะ

    ตอบลบ