9.25.2558

[Oneshot Utapri] Shaving (RenMasa)

Fan-fiction Uta no prince-sama

Title : Shaving
Pairing : Jinguji Ren x Hijirikawa Masato
Rate : PG-15

Note: พล็อตพล็อตที่เคยคิดไว้ว่าอยากลองแต่งดูมาสักพักแล้ว เพิง่จะมีไฟปั่นออกมา ที่เขาว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อน(..ถูกมั้ยน่ะ55)สินะ แต่ก็ยังคิดว่ายังบรรยายได้ไม่ถึงจุดที่ต้องการสื่ออยู่ดี อยากให้ฉากมันดูเซ็กซี่กว่านี้แต่ก็ทำได้แค่นี้ ฮือ
TLในฟิคเรื่องนี้จะเป็นช่วงที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแล้วละค่ะ (น่าจะประมาณวัย30+)




               ฉันบอกเคยแล้วไงว่ามันจั๊กจี้


เสียงท้วงดังขึ้นพร้อมกับมือขาวที่ออกแรงดันให้ใบหน้าคมของหนุ่มผิวแทนออกห่าง คิ้วคู่ขมวดมุ่นแสดงอาการไม่พอใจที่ถูกขัด เขาลองสบตาเผื่อพอจะมีโอกาสอยู่บ้าง ทว่าแววตาคู่อเมทิสต์ที่จ้องมานั่นฉายแววจริงจังกับคำปรามและคงไม่ใจอ่อนง่ายๆดังเช่นที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วเลยต้องยอมผละตัวลุกจากการคร่อมร่างอีกฝ่ายแล้วกลับมานั่งบนโซฟาตามเดิม โดยที่เขยิบเว้นระยะห่างไว้พอให้รู้ว่ากำลังน้อยใจ

คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่พอได้เห็นแบบนี้ก็ส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อย ริมฝีปากขยับยิ้มบางพลางยันกายให้กลับมานั่งพิงเบาะนุ่ม พอเห็นว่าคนขี้งอนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหายจึงลองเอื้อมนิ้วไปจิ้มข้างแก้ม

..สัมผัสสากจากไรหนวดเคราซึ่งทิ่มบนปลายนิ้วทำให้ต้องดึงมือกลับอัตโนมัติ

เร็นที่ยิ่งเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ่งทำหน้าบึ้งกว่าเก่า

               นี่..งอนเป็นเด็กไปได้น่าฮิจิริคาวะเอ่ยขณะเลื่อนตัวเข้าไปนั่งให้ชิดกัน

นัยน์ตาสีฟ้าสว่างเหล่มองมาก่อนจะเคลื่อนหลบไปทำทีเป็นไม่สนใจ

               ก็ฉันไม่ชอบเวลาที่หนวดนั่นมันทิ่มหน้า บอกให้โกนออกก็ไม่ยอมเองไม่ใช่รึไงล่ะยอมเป็นฝ่ายง้อทั้งๆที่ตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ในเมื่อยังไม่ยอมหายแบบนี้ก็ขอเป็นฝ่ายโกรธเองบ้างก็แล้วกัน

กล่าวเสร็จฮิจิริคาวะก็ลุกขึ้นพร้อมกับเชิดหน้าใส่น้อยๆ ไม่ต้องรอให้เดินหนีข้อมือก็ถูกคว้าไว้แล้วกระตุกเรียกให้หันมอง ชายผมสีน้ำเงินเข้มปั้นหน้าเรียบเหล่สายตากลับไปพลางเลิกคิ้ว

               ก็มันเป็นงาน ฉันก็บอกนายแล้วเหมือนกันว่าถ้าปิดกล้องเมื่อไหร่ค่อยโกนออกน่ะเขาพูดเสียงค่อยคล้ายพึมพำ ในตอนนี้เขากำลังรับงานแสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่อยู่ ด้วยบทที่ได้รับผู้กำกับอยากจะให้คนแสดงไว้เคราจริงมากกว่าแต่งเอา ซึ่งตัวเขาเองก็เพิ่งจะเคยไว้เพราะส่วนมากมักจะโกนทุกครั้งก่อนจะขึ้นมาให้สังเกตเห็นได้

และแน่นอนว่าฮิจิริคาวะเองก็ไม่ค่อยอยากให้เขาไว้หนวดหรือเคราเช่นกัน

               ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้ก็งดเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉันก็แล้วกันฮิจิริคาวะกล่าวย้ำและแกะมือที่รั้งไว้ให้หลุดออก

ดูท่าจะไม่ชอบอย่างมากเลยด้วย ที่จริงแล้วหมอนี่ก็บ่นตั้งแต่ช่วงแรกแล้วด้วย ตอนที่เขาเอาหน้าไปซุกตัวก็สะดุ้งแล้วโวยวายใส่ว่าทำไมถึงปล่อยให้ขึ้น

แต่กว่าจะถ่ายทำเสร็จก็อีกตั้งอาทิตย์กว่า

               แค่ไม่ให้โดนก็ได้งั้นสินะ?ไม่งั้นเขาคงจะเฉาก่อนงานจะจบพอดี

เร็นลุกขึ้นยืนเลื่อนมือลงโอบไว้ที่เอวอีกฝ่าย เขาขยับยิ้มขณะที่โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆแต่แล้วมาซาโตะกลับใช้มือยันหน้าเขาไว้ไม่ให้เข้ามาชิดกว่านี้เสียอย่างนั้น

               อะไรอีกเล่า?ครั้งนี้เขาไม่ยอมและพยายามใช้หน้าดันกลับไป

               จูบก็ไม่ได้เหมือนกัน!” ฮิจิริคาวะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุๆพยายามเลื่อนมือไปปิดปากคนที่ทำหน้าฉงนใส่

               หา..?เขาที่ได้ฟังก็ขัดใจหนักกว่าเก่าและพยายามดึงมืออีกคนออกไปให้พ้นทาง แต่เหมือนทางนั้นเองก็ไม่ยอมหนำซ้ำยังใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่มาจิ้มที่เอวเขาจนเผลอสะดุ้งกระเด้งตัวถอยกลับไปตั้งหลัก

               นี่มันจะเยอะไปแล้วนะ!” ชักจะไม่พอใจขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว เร็นถอนหายใจใส่ รอยยิ้มกะล่อนนั่นหายไปจากใบหน้าเหลือแต่คิ้วผูกปมและริมฝีปากที่เป็นเส้นตรง

               ก็มันตำหน้าฉันอยู่ดีนี่ อย่างที่ฉันบอกจนกว่านายจะโกนเคราออกระยะนี้ก็งดไปสักพักก็แล้วกันฮิจิริคาวะพูดย้ำเหมือนต้องการที่จะยื่นคำขาดแก่เขา

อยากจะเถียงอยู่หรอกแต่จากสายตาแข็งๆของคนที่ยืนกอดอกซึ่งจ้องเขาในตอนนี้แล้วหากยังไม่มีฝ่ายไหนยอมคงจะได้ทะเลาะกันจริงๆ ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยโต้เถียงกันเพราะต่างคนต่างดื้ออยากจะเอาชนะ แต่นั่นมันเป็นเรื่องเมื่อหลายปีมาแล้ว

และเขาเองก็ไม่อยากจะถูกหาว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโตด้วย..

               ก็ได้..สุดท้ายก็ต้องยอมตอบตกลงแม้จะไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก

ระหว่างที่ก้มหน้าซึมนั่นเองศีรษะก็ถูกฝ่ามือวางประคองรั้งไว้ที่ด้านหลัง ไม่ทันจะได้เงยขึ้นมองก็รู้สึกถึงสัมผัสนุ่มอุ่นของกลีบปากที่ทาบลงบนหน้าผาก

               ดีมากมาซาโตะพูดเหมือนกำลังเอ่ยชมเด็กๆพร้อมกับลูบปลอบกลุ่มเส้นผมสีน้ำตาลทองนั่น

เมื่อเขาเหลือบขึ้นจ้องสายตาก็ประสานเข้ากับรอยยิ้มอ่อนโยนของมาซาโตะที่ส่งมาให้ เร็นชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มรู้สึกได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวด้วยความเขิน



ถ้าเป็นแบบนี้จนถึงวันปิดกล้องก็คงจะไม่เฉาตายไปก่อนล่ะนะ..




               กลับมาแล้วเสียงดังมาจากผู้ที่ก้าวเข้ามาในคอนโด เสื้อคลุมสีขาวตัวยาวถูกแขวนไว้บนเสาข้างกำแพง รองเท้าหนังแบรนด์ดังถูกหยิบวางเก็บไว้บนชั้น สองขายาวเดินทอดตรงมาทางโซฟานุ่มทิ้งตัวลงนั่งด้วยความล้า ฝ่ามือยกเสยเส้นผมน้ำตาลทองที่ปรกใบหน้าให้ขึ้นไปด้านบนเอนคอพิงพนักพักให้หายเหนื่อย

               วันนี้ปิดกล้องแล้วสินะคนที่อยู่ข้างในครัวชะเง้อหน้าออกมาทักหลังจากได้ยินเสียงของคนที่เพิ่งกลับมา

               อืม..มีเลี้ยงฉลองปิดกล้องด้วยน่ะเลยกลับมาช้ากว่าที่คิดเร็นกล่าวพร้อมกับมองตามอีกคนที่ยกถ้วยสองใบออกมาตั้งไว้บนโต๊ะกินข้าวกลางห้อง ก่อนที่หมอนั่นจะเดินกลับเข้าไปยังในครัวอีกรอบ

               ก็กะไว้แล้วล่ะว่านายคงจะทานมื้อเย็นมาจากที่นั่นแล้วคราวนี้เดินกลับมาพร้อมผ้าขนหนูสีขาวที่กำลังห่ออะไรไว้อยู่และกล่องกระดาษที่บรรจุสิ่งที่น่าจะเป็นขวด

               มานั่งนี่สิเสียงลากเก้าอี้ดังขึ้นก่อนฮิจิริคาวะจะหันหน้าไปมองคนที่นั่งไขว่ห้างที่โซฟา

เขาเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยแต่ก็ลุกเดินไปหา

               นายเตรียมมื้อเย็นให้ฉันอีกหรอ?...หืม??พอเข้าไปถึงระยะหนึ่งยังไม่ต้องชะเง้อมองก็ได้กลิ่นที่เขาพอจะรู้ได้ว่าไม่ใช่อาหาร และยังคุ้นอีกเสียด้วย

พอเห็นว่าเขายืนแบบงงๆมาซาโตะก็รีบกดไหล่ดันให้เขานั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะคว้าผ้ามาผูกให้เหมือนผ้ากันเปื้อน

               เดี๋ยวสิ..นี่นาย..เขาแหงนคอเหลือบสายตาจ้องคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เงาสะท้อนสีเงินของสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายนั้นทำให้เดาได้ว่าตอนนี้หมอนั่นกำลังจะทำอะไร

               ก็นายตกลงแล้วนี่ว่าพอปิดกล้องจะโกนเจ้าเคราหนามๆนี่ออกน่ะไม่พูดเปล่าแต่ใช้นิ้วจิ้มลงที่ปลายคางทดสอบถึงความแหลมซึ่งคอยตำผิวตนที่ว่าด้วย

               อ่า..ฉันจัดการเองได้น่า อีกอย่าง..มีดที่นายใช้มันจะไม่ดู..ดั้งเดิม..ไปหน่อยหรอเขากะพริบตามองใบมีดคมกริบที่อีกฝ่ายถือไว้

               จะบอกว่าของ โบราณสินะ กลัวฉันพลาดปาดคอนายล่ะสิมาซาโตะกล่าวยิ้มขำพร้อมทั้งประคองลำคอของจินงูจิให้แหงนได้องศาที่พอดี

               “ไม่ใช่อย่างนั้น.. แต่แบบนี้ก็คงตื้นเต้นไปอีกแบบดีล่ะนะเร็นว่าพลางหัวเราะ

เขาได้ยินเสียงแกะพลาสติกที่ห่อกล่องกระดาษออกตามมาด้วยเสียงเปิดหยิบขวดออกมาตั้ง เร็นแอบเหลือบมองก็เห็นว่าขวดใบนั้นก็คือครีมโกนหนวดที่กำลังถูกบีบออกมาใส่ฝ่ามือ ครีมนุ่มสีขาวถูกทาลงที่ใต้คางไล่ขึ้นมาตามไรหนวด สัมผัสเย็นของโลหะที่จ่อแถวลำคอทำให้หวั่นใจจนเผลอนั่งตัวเกร็ง

               นายแน่ใจนะว่าเคยใช้มีดโกนแบบนี้มาก่อนน่ะมาซาโตะ?ตอนนี้เริ่มจะลังเลเสียแล้ว เร็นช้อนสายตาจ้องคนที่ทำหน้าขะมักเขม้นกับการใช้ใบมีดปาดลงบนครีมสีขาว

               แล้วนายคิดว่าฉันโกนหนวดตัวเองยังไงล่ะ? อยู่เฉยๆซะถ้าไม่อยากเลือดออกฮิจิริคาวะขู่และใช้มือข้างที่ว่างจับล็อคให้ศีรษะคนผมทองอยู่กับที่

ใบมีดไล่โกนเส้นขนจากบริเวณสันกรามทีละเล็กน้อย ดูจากสีหน้าแล้วคงต้องเพ่งสมาธิมากเลยทีเดียว เร็นขยับยิ้มบางขณะมองใบหน้าของมาซาโตะที่อยู่ห่างจากเขาแค่ระยะลมหายใจ

               แล้วถ้านายเผลอทำมีดบาดฉันขึ้นมาจริงๆล่ะ?เขาแกล้งพูดหยอกขึ้นมาระหว่างที่อีกฝ่ายยกใบมีดออกเพื่อย้ายมาที่แก้มอีกฝั่งบ้าง

               นายก็เอามีดปาดฉันคืนแล้วกันฮิจิริคาวะพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงนิ่งจนแยกไม่ออกว่ากำลังพูดจริงหรือล้อเล่น

เขาหลุดหัวเราะเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนที่จะถูกอีกฝ่ายดุให้เงียบเพราะมันทำให้หน้าของเขาขยับไปด้วย


จนกระทั่งไล่มาถึงที่ใต้คาง มาซาโตะดันหน้าผากของเขาลงมาอีกเพื่อให้แหงนหน้าขึ้นจนพิงร่างด้านหลังพอดี ศีรษะของอีกฝ่ายก็โน้มลงมาใกล้กว่าเก่าเช่นกัน ลมหายใจอุ่นระที่ลำคอ ปลายนิ้วนุ่มแตะลงที่ปลายคางออกแรงยึดเล็กน้อยเพียงพอที่จะคุมไม่เกิดการขยับเขยื้อน ความเย็นของมีดลากผ่านลำคอของเขากวาดครีมส่วนที่เหลือให้หลุดออกไป ระหว่างนั้นเองที่สายตาของพวกเขาสบกันพอดี รอยยิ้มถูกวาดขึ้นบนดวงหน้าที่แต้มไฝเสน่ห์แล้วเบนสายตาออกจากเขาเพื่อไปสะสางส่วนที่เหลือต่อให้เสร็จ

               เรียบร้อยแล้วมาซาโตะกล่าวและวางมีดลงบนโต๊ะ ผ้าขนหนูสีขาวถูกหยิบมาชุบน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ในถ้วยแล้วยกขึ้นบิดให้หมาดเพื่อนำมาเช็ดตามรอยที่เพิ่งถูกโกนหนวดทิ้ง

เร็นหลับตาพริ้มขณะที่อีกคนเช็ดตามปลายคางให้ ด้วยความน่าหมั่นไส้นั้นผ้าขนหนูทั้งผืนจึงถูกใช้คลุมปิดทั้งใบหน้าแล้วขยี้ๆด้วยแรงที่ไม่มากนักก่อนจะตบท้ายด้วยการบีบจมูกไว้

               ฉันหายใจไม่ออกนะเร็นเอ่ยด้วยเสียงอู้อี้และพยายามดึงผ้าบนหน้าออก พอสาแก่ใจอีกฝ่ายแล้วเขาจึงกลับมาหายใจได้ดังเดิม


ระหว่างที่รอฮิจิริคาวะเก็บข้าวของอยู่นั้นเขาก็ใช้นิ้วลูบปลายคางดูก็พบว่าแทบไม่ต่างจากเวลาที่เขาใช้ที่โกนหนวดโกนเองเสียเท่าไหร่ ถึงแบบนี้จะเมื่อยคอไปบ้างแต่ยังไงวิวก็ดีกว่าเห็นๆ


เขาเดินตามอีกฝ่ายไปเพื่อช่วยล้างทำความสะอาดของที่ใช้แต่ดันถูกบอกให้รออยู่เฉยๆเนื่องจากครั้งล่าสุดที่ไปช่วยล้างจานนั้นเขาทำจานแตกไปสองใบ..

ไม่ใช่เพราะมือลื่น..แต่เพราะมัวแต่เล่นกับอีกฝ่ายจนเผลอกวาดจานที่วางบนอ่างล้างตกแตก


               เสร็จแล้วหรอ?เขาเอ่ยถามเมื่อเสียงของน้ำจากก๊อกหยุดไหลไป

               อืมมาซาโตะที่ยกของไปเก็บเอ่ยตอบ

เขารอจนอีกฝ่ายนั้นทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงเดินตรงเข้าไปหา

               มีอะไรอีกรึไง?ฮิจิริคาวะเอียงคอถามกับท่าทีแปลกๆของเร็น

เขาไม่ได้ตอบแต่ช้อนร่างของอีกคนขึ้นมาแล้วพาเดินไปยังโซฟาเพราะระยะมันใกล้ที่สุด

...ถึงถัดไปจะเป็นห้องนอน แต่ว่าสำหรับเขาในตอนนี้ เพียงวินาทีเดียวก็รอไม่ได้อีกแล้ว

               เร็น??มาซาโตะที่ถูกวางนอนบนโซฟาเบิกตากว้างพยายามจะดันคนที่กำลังขึ้นคร่อมตัว

               ตอนนี้หน้าฉันเกลี้ยงแล้วนี่นา~” ชายหนุ่มขยับยิ้มอย่างมีเลศนัยเลื่อนมือจับที่สาบของยูกาตะก่อนที่จะแหวกออกกว้างเผยผิวขาวที่รอยอะไรๆได้จางไปหมดแล้ว เขาไถใบหน้าซุกไซ้ไปตามผิวกายที่ห่างจากการสัมผัสมานาน

มาซาโตะถอนหายใจออกมาคล้ายรู้สึกหน่ายๆ

               ยังไงฉันก็พูดไปแล้วนี่นะ..สองแขนเรียวโอบไว้รอบหลังคอของเร็นเลื่อนนัยน์ตาอเมทิสต์สบตรงๆกับสีฟ้าใสคู่นั้น


ฝ่ามือขยุ้มจิกเบาๆบนเส้นผมน้ำตาลทอง มาซาโตะขยับยิ้มหวานก่อนจะหลับตาลงรับทุกสัมผัสที่เข้าครอบครองทั้งร่าง เสียงพร่ำบอกปลอบโยนอย่างใคร่รักจากเร็นแม้จะเป็นคำซ้ำๆก็ไม่เคยทำให้รู้สึกเบื่อ

ร่างเพรียวขยุกขยิกเพราะมือซุกซุนที่เลื่อนคลายโอบิสีดำ แก้มขาวต้องขึ้นสีแดงก่ำยามที่สัมผัสอุ่นจากริมฝีปากไล่ฝากรอยไปทั่วตัว สันจมูกโด่งใส่สูดกลิ่นกายหอมนับตั้งแต่ใบหู ลำคอ หัวไหล่มน

ใบหน้าของเร็นโน้มลงใกล้เข้ามาเรื่อยๆกระทั่งแนบริมฝีปากเข้าชิดเพื่อมอบจูบแผ่วเบาบนกลีบปากนุ่ม สัมผัสอ่อนโยนอยู่ได้เพียงไม่นานก็เริ่มทวีเป็นร้อนแรงมากขึ้นด้วยความโหยหามาตลอดทั้งอาทิตย์





และคงอีกพักใหญ่กว่าจะชดได้หมด





-END-