6.18.2561

[Fic Utapri] L I n E (Renarty x Masato)

Fan-fiction utapri

Title: L I n E
Pairing: James Renarty x John H. Masato (RenMasa)

A/N: พล็อตนี้อ้างอิงบทจากเวิร์ส Detective Tokiyalock (Sherlock Holmes parody) นะคะ
เนื้อเรื่องแล้วแต่ว่าอยากเขียนฉากไหนที่นึกออกก็เขียน จบสั้น ๆ ในตอน (จริง ๆ มีพล็อตหลักแล้ว อาจจะงง ๆ ที่ไม่มีเกริ่นอะไรก่อนบ้าง..)



"คงจะดีกว่าถ้าพวกเราไม่ได้รู้จักกันในแบบที่เป็นอยู่"

แว่วเสียงทุ้มลอยดังมาตามลมโกรกบนดาดฟ้าตึกสูง

"เธอเองก็คิดเหมือนกันหรือเปล่าล่ะ คุณหมอ?"

เงาร่างสูงในชุดสูทสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าสีดำยืนหยุดนิ่งที่สุดเส้นทางจะเดินต่อ เรือนผมยาวสีน้ำตาลทองปลิวไปตามแรงพัด หันใบหน้ากลับมามองผู้ไล่ล่าด้วยนัยน์ตาสีฟ้าพร้อมวาดยิ้มส่งมาในแบบที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก

"พวกเราไม่ควรรู้จักกันเลยต่างหาก"

น้ำเสียงแข็งกร้าวไม่ต่างจากแววตาที่จ้องกลับ พูดตะโกนตอบไปให้ดังพอที่จะส่งผ่านระยะทางที่ห่างกันพอควร ผมสีน้ำเงินไหวพลิ้วจนยุ่งเหยิงแทบไม่เป็นทรง

ควันขาวพ่นออกจากปากคนหอบหายใจ สองเท้าก้าวเดินเข้าไปหา หวังต้อนให้คนสุดปลายทางไม่ให้หลบหนี ฝ่ามือขาวขยับเคลื่อนไปปลายเสื้อกั๊กข้างเอวอย่างเชื่องช้า กระชับปืนพกที่เหน็บหลบไว้ด้านหลัง

"นายหนีไม่ได้แล้ว หยุดซะเถอะ"

เปล่งเต็มเสียงแสดงความจริงจัง ขึ้นไกปืนไว้เตรียมพร้อม

"ถ้าฉันไม่หยุดล่ะ?"

หมุนตัวกลับมาประจันหน้า เมฆหนาลอยเคลื่อนตัวพ้นออกเผยฟ้าโปร่งโล่ง แสงจันทร์สาดลงให้เห็นรอยยิ้มขณะเอ่ยถามนั่นได้ชัดเจน

"ฉันจะเป็นคนหยุดนายเอง"

เอ่ยพร้อมคว้าปืนที่ซ่อนไว้ออกมา สองมือประคองเล็งใส่ที่ผู้ที่ยืนเบื้องหน้า แตะนิ้วลงพร้อมที่จะเหนี่ยวไกใส่

"แบบนี้ไม่ผิดจรรยาบรรณหรือคุณหมอ"

ส่งเสียงคลอหัวเราะไม่มีท่าทีจะตื่นตระหนกแต่อย่างใด สองแขนผายออกไปข้างลำตัว จ้องอย่างท้าทายใส่

"ฉันไม่ได้จะฆ่านาย ฉันจะยิงเพื่อหยุดนาย"

โอกาสเดียวที่จะหยุดทุกสิ่งก่อนที่จะเลวร้ายไปมากกว่านี้

กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงลำคอ พยายามผ่อนลมหายใจให้ดูเป็นปกติที่สุดซ่อนความประหม่า ยิ่งยกค้างไว้นานก็ง่ายต่อการจับสังเกตได้ว่ามือกำลังสั่น

"ถ้าอย่างนั้นก็ยิงเลยสิ.."

ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ยกย่างก้าวสาวเท้าเข้าใกล้ไม่หนีออกจากวิถีกระสุน ตั้งศีรษระตรงไม่เปลี่ยนระดับสายตาหรือละออกจากภาพของกระบอกปืน

"ฉันไม่ได้แค่ขู่นายหรอกนะ"

รู้ดีว่ากำลังถูกชักจูงให้ไขว้เขว ตรงหน้าเป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญเรื่องการเล่นเกมจิตวิทยา ตนไม่มีทางที่จะยอมโดนปั่นหัวได้โดยง่าย

"เธอทำไม่ได้หรอก"

ช้อนดวงตาขึ้นสบ จงใจมายืนอยู่ในระยะที่ไม่มีทางจะยิงพลาด

แต่อีกนัยนึงก็ง่ายต่อการโต้กลับและยึดอาวุธมาได้อย่างสบาย ทักษะด้านการต่อสู้และพละกำลังยังไงก็เหนือกว่า การที่จะหลุดจากสถานการณ์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย

ต่างฝ่ายต่างรู้เรื่องนี้ดี

"มอบตัวซะ และรับผิดทุกอย่าง"

จะเกลี้ยกล่อมก็ดูไม่มีวี่แวว หากไม่มีทางเลือกก็จำเป็นจะต้องยิง ริมฝีปากเม้มแน่น

"ไม่ได้หรอก ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ"

เผลอถอยออกห่างอย่างลืมตัว เมื่อคนข้างหน้าเข้ามาใกล้อีกก้าว ฝ่ามือเริ่มสั่นเทา ในตอนแรกคิดว่าตนมั่นใจว่าสามารถทำได้ ทว่าตอนนี้ความลังเลกลับก่อตัวขึ้นมา

"หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ! อย่าเข้ามาใกล้"

ลืมตัวส่งเสียงตะโกนทั้งที่ยืนอยู่ไม่ได้ไกลจากกัน เก็บอาการไว้ไม่อยู่ทั้งแววตา สีหน้า และน้ำเสียงที่สั่น

ไม่ฟังคำห้ามปราม ขายาวจงใจเดินเข้ามาใกล้ ฉับพลันเสียงปืนก็ดังลั่น ประกายไฟปลายปากกระบอกปืนฉายสีสว่างรับกับควันร้อนที่ออกมา กระสุนพุ่งตรงมุ่งเข้าใส่

ชายผมทองยกยิ้มมุมปาก ชั่ววูบเดียวเท่านั้นที่คล้ายว่าในดวงตาคู่สีฟ้าฉายความไม่มั่นคง ก่อนจะกลับมาเป็นเช่นเดิมที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์กลบซ่อนทุกความในใจ เสี้ยววินาทีที่แค่ขยับตัวก็หลบได้ แต่เลือกที่จะหยุดอยู่นิ่ง

เนื้อผ้าขาดเป็นรอยโหว่ ซึมด้วยสีเลือดแดงเข้มที่ไหลออกมาจากจุดถูกยิง กดทับแผลที่ข้างเอวด้วยถุงมือหนังสีดำ ทรุดลงไปยืนด้วยเข่า เงยขึ้นมองผู้ที่เหงื่อแตกจนเต็มใบหน้าและสองมือ ดวงตาคู่อเมทิสต์เบิกกว้าง แสดงอาการตกใจที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังจากลั่นไกปืน

"เธอทำได้..แบบที่บอกจริง ๆ ยินดีด้วยนะ..คุณหมอ"

ความเจ็บแปลบที่บาดแผลค่อย ๆ ชาเพราะสูญเสียเลือด เหลือแต่ความทรมานที่ยังคงรู้สึกร้าวอยู่กลางอก


ยิงหรือไม่ยิง

ไม่ว่าจะทางเลือกใด

สำหรับเขาค่าก็เท่ากัน


หากเลือกที่จะไม่ยิง ก็แปลว่ายังลืมและข้ามผ่านมาไม่ได้
ไม่มีฝ่ายใดที่ไม่ทรมาน


หากเลือกที่จะยิง ก็แปลว่าไม่เหลือความรู้สึกใด ๆ อีกแล้ว
มีเพียงฝ่ายเดียวที่ยังคงทรมานคือเขา


"ยังไม่สายหรอกนะ.. ถ้านายหยุดเสียตั้งแต่ตอนนี้"

กระบอกปืนลดระดับลงแต่ยังถือไว้เพื่อคอยคุม สีหน้าแสดงออกถึงความเป็นห่วง แม้จะประเมินได้ว่าบาดแผลนั้นไม่ร้ายแรงถึงชีวิต

"เสียใจด้วยนะ เพราะ..ไม่ว่ายังไง..ฉันก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก"

เอ่ยตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก มองตามคนที่ย่อตัวลงมาเพื่อตรวจดูรอยแผล

"ทำไมนายไม่หลบ.."

ก้มมองเลือดที่ยังคงไหล หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วกดลงบนแผลเพื่อห้ามเลือด อีกไม่นานตำรวจก็จะตามมาถึง

"เพราะมันคือความต้องการของเธอ"

เลื่อนมือที่เย็นเฉียบวางทาบบนหลังมือขาว แม้สีหน้าจะเหยเกก็ยังฝืนยิ้ม

"นายบังคับฉันต่างหาก"

เลือดเริ่มซึมออกมาช้าลง ขณะจะยกมือผละออกก็ถูกรั้งไว้เสียก่อน จึงหันหน้าไปหา แต่พบว่าห่างเพียงระยะไม่เกินช่วงลมหายใจ สันจมูกโด่งเฉี่ยวที่ข้างแก้มเพียงมิลลิเมตร ชะงักค้างจ้องนัยน์ตาคู่สีฟ้า อ่านไม่ออกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เลื่อนเข้ามาใกล้จนไม่อาจละสายตามองไปทางอื่น จับฝ่ามือขึ้นมากุมเอาไว้ ยกอีกข้างวางไว้ที่หลังต้นคอ โน้มเข้ามาชิดจนกระทั่งริมฝีปากแทบจะแตะกัน

"ขอโทษนะ..มาซาโตะ"

สิ้นเสียงเอ่ยกระซิบ กระแสไฟฟ้าก็ช็อตเข้าสู่ร่างจนสิ้นสติ แหวนเงินซึ่งสวมทับบนถุงมือฉายแสงประกายเป็นเส้นสีขาวคล้ายฟ้าแลบ แม้จะไม่แรงจนเกิดอันตรายแต่ก็มากพอที่จะทำให้สลบได้

สองแขนประคองร่างให้นอนลงบนพื้น เคลื่อนตัวได้ไม่ถนัดนัก รอยที่ถูกยิงแม้จะไม่สาหัสแต่ก็สร้างความลำบากได้ไม่น้อย ฝ่ามือล้วงไปใต้เสื้อสูท หยิบกล่องเหล็กที่ซุกเอาไว้ออกมาเปิด เข็มฉีดยาขนาดเล็กถูกบรรจุยาไว้เตรียมพร้อม แกะเปิดฝาเข็มออกก่อนที่จะปักลงห่างจากบริเวณแผลออกมาไม่มาก ยาชาฤทธิ์กดประสาทถูกฉีดเข้าไป เพียงไม่นานความรู้สึกเจ็บก็หายเกือบปลิดทิ้ง

เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่เหลือทิ้งร่องรอยอื่นใดที่จะระบุตัวของตนได้ก็ขยับตัวลุกขึ้นแล้วรีบออกไปจากบริเวณนั้นก่อนที่ตำรวจจะตามมาถึง

สิ่งที่ติดมือมาด้วยคือผ้าเช็ดหน้าผืนที่ถูกใช้ห้ามเลือด



"ไม่คิดว่าคนเช่นเจ้าจะพลาดท่าได้"

เสียงเอ่ยทักดังขึ้นเมื่อได้ย้ายขึ้นมานั่งบนรถที่จอดรอไว้ตามแผนที่นัดกันไว้

สองแขนกอดอก ยกขานั่งไขว่ห้างบนเบาะหลัง ดวงตาสีเกล็ดน้ำแข็งใต้เงาของหมวกที่สวมปรายมองสภาพที่หาดูได้ยากจากคนที่อยู่ด้านข้าง

"ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบบนโลกนี้หรอกนะคุณบอสแห่งคามิลโล่"

พูดตอบพลางหัวเราะเสมือนไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร

"หึ ข้าช่วยเจ้าในหนนี้ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่ให้มา ครั้งหน้าจะไม่มีอีก"

ทุกสิ่งมีราคา แต่แม้ว่าข้อเสนอหลายอย่างจะน่าสนใจ แต่การเข้าไปยุ่งกับคน ๆ นี้มากจนเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดี

เจมส์ เรนอาตี้ บุคคลที่เป็นที่รู้จักในนามศาสตราจารย์อายุน้อยชื่อดัง ฉลาดหลักแหลม แต่ในโลกอีกด้านนั้นรู้กันเป็นอย่างดีว่าอันตรายแค่ไหน

"ฉันจะรอครั้งหน้าที่ได้ร่วมธุรกิจกันอีกนะ แต่ก่อนอื่นคงจะต้องหาหมอคนอื่นก่อนซะแล้วล่ะ"

พูดดักไว้ราวกับแน่ใจว่าจะต้องได้ติดต่อกันอีกอย่างแน่นอน