11.22.2557

[Short fic Utapri] X X X [RenMasa]

Fan-fiction Uta no prince-sama
Title : X X X
Pairing : Jinguji Ren x Hijirikawa Masato
Rate : 18+
Warning: NTR


A/N : ไม่ได้เช็คคำผิดแต่อย่างใด (สดๆร้อนๆ) ถ้าเจอบอกด้วย ฮือ
จริงๆอยากแต่งพล็อตนี้มานานแล้วแต่ว่า..คิดรายละเอียดอะไรเพิ่มไม่ออกซักที กับเวลาไม่ค่อยจะมี เสียใจ..
พอได้ฟัง xxx ของลาร์คอีกรอบ..ก็ เอ๊ะ...มันใช่นี่หว่าาาา เลยใช้เพลงนี้บิวท์ตอนแต่ง..และเอามาเป็นชื่อซะเลย(ขี้เกียจคิด555)



แก้วใสในมือถูกยกขึ้นแกว่งเป็นวงกลม ก้อนน้ำแข็งเลื่อนกระทบจนเกิดเสียง ดันกระดกเอียงให้ของเหลวเจือสีไหลลงสู่คอแผ่ความร้อนกระจายจนเลือดพอสูบฉีดให้ขึ้นสีจางบนดวงแก้มขาว เหล่สายตาจ้องกลับไปยังด้านข้างหาเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสว่างซึ่งมองมา

ไล่มายังแก้วซึ่งมีแต่น้ำแข็งที่เริ่มละลายอีกใบที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะมุ่นคิ้วแล้ววางแก้วของตนลงกับโต๊ะ

มือขาวพยายามจะเอื้อมหยิบขวดเพื่อมารินเติมแต่กลับถูกแย่งไปเสียก่อน

"นายดื่มเยอะเกินไปแล้วนะ" คล้ายจะดุแต่น้ำเสียงไม่ใช่

"ยุ่ง" คนถูกห้ามคิ้วผูกคิ้วเป็นปมอย่างไม่พอใจนัก

ใบหน้าแดงๆนั่นพอทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มจะเมาแล้ว ก่อนจะหนักเกินไปกว่านี้คงจะต้องเอาขวดกับกระป๋องพวกนี้ไปเก็บซะแล้ว
ควรแปลกใจหรือเปล่าที่ในห้องของหมอนี่มีอะไรแบบนี้อยู่ด้วย แต่ดูๆแล้วก็เหมือนจะเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน

แต่ที่ทำให้แปลกใจกว่านั้นคือการที่อยู่ๆคุณชายฮิจิริคาวะเป็นฝ่ายชวนให้เขามานั่งดื่มด้วย

ทั้งที่เมื่อก่อนมักจะบ่นเขาเรื่องนี้แท้ๆ

ไม่ได้เจอกันหลายปี.. เปลี่ยนไปจนประหลาดใจจริงๆ

เจ้าของห้องเริ่มตาปรือคล้ายกำลังง่วง ชายหนุ่มผู้เป็นแขกจึงเหลือบดูนาฬิกาดิจิตอลที่วางบนโต๊ะฝั่งตรงข้าม

ตีสอง..
อา.. มาอยู่นานขนาดนี้แล้วงั้นหรอ

หันกลับไปมองร่างของอีกคนที่เหมือนว่าคงจะหลับไปแล้ว เร็นถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับ

"จินงูจิ.. จะไปไหนน่ะ?" เสียงเอ่ยดังพร้อมกับเสื้อที่ถูกรั้งไว้

"ดึกขนาดนี้แล้ว ก็ต้องกลับแล้วสิ" เขาพูดตอบแต่ไม่ได้หันกลับไปหา พยายามก้าวขาเดินให้มือที่จับกับเสื้อนั่นหลุดออก
แต่ทว่า..เหมือนจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

"ค้างที่นี่ก็ได้นี่" มือข้างที่ยึดเสื้อออกแรงดึงให้ร่างลุกขึ้นยืน

ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินตรงไปที่ประตู

"เร็น"

แต่คงเดินต่อไปเอื้อมมือจะคว้าที่ลูกบิด แต่กลับต้องหยุดค้างไว้ด้วยแขนเรียวที่รวบโอบเขาไว้จากด้านหลัง นัยน์ตาเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงยืนนิ่ง อ้อมแขนทั้งสองยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้น

ไม่ใช่ร่างแต่เป็นข้างในอกเหมือนถูกรัดซ้ำด้วยแรงจนรู้สึกเจ็บ

ถ้ามากกว่านี้..คงจะร้าวได้

"นายเมามากไปแล้ว" น้ำเสียงนิ่งในแบบที่ไม่ใช่ปกติของเขา เลื่อนลงจับที่ข้อมือของอีกคนค่อยๆแกะให้หลุดออก แต่อีกฝ่ายพยายามขืนไว้พร้อมกับเถียงกลับ

"ฉันไม่ได้-.." ไม่ทันได้พูดก็ถูกสวนขึ้นมาไว้เสียก่อน

"ฮิจิริคาวะ!" เร็นหันกลับไปหลุดตะคอกใส่อย่างไม่ตั้งใจ แรงที่รั้งตัวของเขาไว้เริ่มจะคลายออก ใบหน้านั่นสลดลงในทันทีพลางเม้มปากแน่น เห็นแบบนั้นแล้วจึงหลบสายตาก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตู

ห่างเพียงวินาทีที่ประตูถูกผลักให้ปิดลง ริมฝีปากของร่างที่เข้ามาขวางไว้นั้นก็เบียดแนบเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ฝ่ามือเรียวเลื่อนประคองที่ข้างใบหน้าก่อนจะขยับไปรั้งไว้ที่หลังคอ เขยิบเข้าชิดจนไร้ระยะห่าง กว่าจะตั้งสติได้ทันว่าเกิดอะไรขึ้นก็รู้สึกถึงปลายลิ้นที่แทรกเข้ามาหา

ก่อนที่เขาจะทนข่มใจไว้ไม่ได้...
เร็นรีบผลักให้ร่างของอีกฝ่ายออกในทันที ผู้ถูกผละออกได้แต่ยืนชะงักค้างมองมาเหมือนช็อคอยู่หน่อยๆ

"ไม่ได้.. " พึมพำพลางคว้าข้อมือของอีกคนยกขึ้น เลื่อนลงไปจากฝ่ามือก่อนจะสะดุดที่แหวนวงสีเงินบนนิ้วเรียวของอีกฝ่าย

"แบบนั้น..ฉันจะเป็นพี่ชายที่ไม่ดีสิ" เร็นเหลือบสายตาขึ้นจ้องมองพร้อมรอยยิ้มจาง ความเจ็บปวดในแววตาคู่นั้นดั่งถ่ายทอดมาวูบลึกอยู่ภายในใจของอีกคน ฮิจิริคาวะก้มหน้าลงก่อนจะเม้มปากแน่น ทิ้งให้ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างทั้งคู่อยู่พักใหญ่ๆ ต่างไม่ปริปากอะไรหรือขยับไปไหน..

เขาเองก็ได้แต่อยู่นิ่งแบบนั้นแบบไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร..

"..ก็ช่างสิ" จนในที่สุดความอึดอัดนั้นก็ถูกทำลายด้วยน้ำเสียงไหวสั่นที่เอ่ยเบาๆ แต่หากดวงตาที่ช้อนขึ้นมองกลับแสดงถึงความจริงจังในคำพูดนั้น

เพียงชั่วครู่เดียวที่ระริกไหวในแววตาคู่ฟ้าสว่าง ถ้าอยู่นานมากไปกว่านี้ล่ะก็..

"ถ้านายสนเรื่องนั้นก็คงไม่มาที่นี่แต่แรก..หรือไม่จริง?" พูดต่อพลางจ้องลึกเข้าไปหาสิ่งที่ซ่อนไว้ของนัยน์ตาที่เริ่มหวั่นไหว ขยับยกให้ฝ่ามือขึ้นแนบลงบนข้างแก้มนุ่ม เส้นผมน้ำเงินเข้มลู่ลงเคลียบนบ่าเมื่อเจ้าตัวเอียงคอมอง

เขยิบก้าวพาให้ร่างใกล้เข้ามา อเมทิสต์คู่งามนั่นยังคงไม่กะพริบ


ดูท่าจะติดกับซะแล้ว..ทว่าไม่ใช่เพราะเสียทีหรอก..

เขารู้ทั้งรู้..แต่ก็ยังมาทั้งที่ปฏิเสธไปแต่แรกก็ทำได้

ถ้าจะบอกว่าไม่ได้หวังให้มันกลายเป็นแบบนี้..คงจะเป็นคำโกหก


"คุณหนูฮิจิริคาวะกลายเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" หย่อนถามเพื่อเลี่ยงจะตอบอีกฝ่าย

เสียงหัวเราะคิกคักดังก่อนรอยยิ้มจะถูกวาดขึ้นจากผู้ถูกกล่าวว่าเป็นเด็กไม่ดี

"..ฉันติดมาจากคนนิสัยแย่ๆบางคนน่ะ"

สะดุ้งเล็กน้อยที่ถูกว่ากล่าว.. เร็นหัวเราะเบาๆทำเป็นไม่รู้ว่าหมายถึงใคร

               คงเป็นคนที่แย่มากเลยสินะ?จ้องกลับไปตรงๆเอ่ยถามต่ออย่างไร้ซึ่งสาระ

               ใช่..เป็นคนที่แย่มากๆเลยล่ะระยะห่างเริ่มลดลงทุกที

หลุบตาลงเล็กน้อยให้พอดีกับระดับสายตาที่จ้องประสานกันอยู่ คนผมน้ำตาลทองโน้มลงจนหน้าผากชนกับเจ้าของผมสีเข้มเบาๆ
ลมหายใจปะทะบนบนผิวหน้าซึ่งกันและกัน รดใส่ลงจนกระทั่งหยุดยามเข้าเชยชิมกลีบปากอย่างดูดดื่ม

รสชวนเสพติด..เพียงเล็กน้อยก็ทำให้กระหาย..เพิ่มขึ้น..และเพิ่มขึ้น

ขาดหายไปนับปี..ยิ่งโหยหา..มากขึ้น..และมากขึ้น

เรียวแขนโอบไว้กระชั้นร่างให้ชิด แหงนคอรับจูบและตอบรับกันอย่างคุ้นชิน เร็นเลื่อนฝ่ามือประคองไว้ที่หลังศีรษะแทรกนิ้วกับกลุ่มผมนุ่มสีน้ำเงิน ส่วนแขนอีกข้างรวบไว้ที่เอวคอดดันให้ร่างเข้าหาราวต้องการจะให้เบียดหลอมรวมจนเป็นหนึ่งเดียว


อา... ยาพิษนั้นมักหอมหวาน

อันตรายมากเท่าไร ยิ่งดูดดึงให้เข้าหา

รู้ถึงโทษว่าหนักหนาเพียงใด จำต้องโยนสำนึกทิ้ง..


ผู้บาปหนาช่างโง่งมเสียจริง



               กระเส่าครางแอ่นกายตอบรับสัมผัส ผิวเผาแผดรุ่มด้วยเพลิงโหมจุดเชื้อด้วยราคะลากไล่วนเวียนลูบคลึงชื้นเหงื่อไคล กระตุกเล็กๆยามถูกเย้าแหย่ ริมฝีปากอุ่นครอบครองครั้งเล่าลงลึกจนสุด ปลายเล็บคมยกขึ้นจิกทึ้งยังเส้นผมประกายทองบิดเอี้ยวตัวด้วยความกระสัน เรียวขาที่ถูกแยกสั่นระริกไหวเกร็งนิ้วลากไปกับผ้าปูเตียง

ลมร้อนพ่นผ่อนปะทะซอกขาหลังแลบเลียคราบของหยาดรักที่เปื้อนมุมปาก นัยน์ตาฟ้าสว่างช้อนขึ้นจ้องหาดวงตาที่ปรือจนแทบปิด เคลื่อนร่างให้เขยิบขึ้นมอบรสจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทวีความรุนแรงขึ้นทุกครั้งและทุกครั้ง

ไล้ไปตามใบหน้าเกลี่ยแก้มแดงระเรื่อสอดประคองใต้ศีรษะให้ถนัดรับกับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าหา ฮิจิริคาวะส่งเสียงอื้ออึ้งในลำคอเบียดเสียดร่างพอช่วยคลายอารมณ์ที่ครุกครุ่นให้ได้ระบาย

ไฟที่จุดขึ้นแล้วหากลามก็ยากที่จะดับลงได้..

ร้อนระอุจนปลดทุกอย่างโยนทิ้งไปไกลอย่างไม่นึกสนใจว่าเสื้อผ้าแบรนด์หรูพวกนั้นจะไปกองตกอยู่ตรงส่วนไหนของห้อง แทบเจียนจะขาดอากาศหายใจจึงจำต้องผละออก สันจมูกโด่งลงลากลงมาบนแผ่นอกที่กระเพื่อมหอบ บรรจบเม้มจูบจนขึ้นเป็นรอยแดงบนผิวขาว

               จินงูจิ..เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าเรียกให้เขาต้องเงยขึ้นจ้อง แววตาคู่นั้นปรือขึ้นมองฉายออกถึงความต้องการที่เปี่ยมล้น ฮิจิริคาวะขยับยิ้มอย่างซุกซนขณะเขยิบร่างให้ลุกขึ้นชันเข่า กรีดนิ้วเรียวลากบนใบหน้าคมลงผ่านลำคอก่อนจะเกาะมือทั้งสองไว้บนไหล่กว้าง

               นอนลงสิเลื่อนฝ่ามือลงมาแล้วผลักเบาๆที่แผ่นอก ถึงจะแปลกใจแต่เร็นก็เอนลงนอนอย่างว่าง่าย

ท่อนขาขาวตวัดยกขึ้นพาร่างโปร่งของชายหนุ่มให้คร่อมบนอยู่บนกล้ามหน้าท้อง เห็นดังนั้นเลยส่งเสียงผิวปากแว่วเหมือนแซวอีกฝ่ายจนทำให้หน้านั่นแดงขึ้นมา

เจ้าตัวหน้ามุ่ยแล้วทำทีจะลุกออกเขาจึงรีบคว้าเอวไว้ก่อนก่อนจะหลุดหัวเราะขำๆ แต่ก็ได้สายตาดุๆจ้องกลับมา

               งอนหรอ?เขาถามยิ้มๆพร้อมกับลูบเอวไล่ไปเรื่อย ร่างของอีกคนสะดุ้งเล็กน้อย

               ชอบแกล้งอยู่เรื่อย..ฮิจิริคาวะบ่นพึมพำพลางหยิกหลังมือเบาๆเป็นการเอาคืน

ก็แหงล่ะ..เพราะเป็นแบบนี้เลยยิ่งอยากแกล้ง

แทนที่จะปล่อยมือออกเขาเลื่อนลงไปบีบคล้นที่สะโพกแทนก่อนๆจะค่อยๆขยับไปด้านหลังแล้วออกแรงบีบเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ทว่า...

               อ..อือ..แทนจะเป็นเสียงด่ากลับเป็นเสียงครางแผ่วๆที่หลุดออกมา.. ทำเอาชะงักนิ่งกันไปพักหนึ่ง..

นัยน์ตาสีอเมทิสต์เหลือบมาสบพอดีกับเขา จากใบหน้าซุกซนก่อนหน้านี้กลายเป็นสีหน้าที่เริ่มกังวล เห็นแบบนี้แล้ว..ตัวเขาเองก็..

กำลัง..ทำอะไรอยู่..

               ..จะหยุด..ก็ได้นะเร็นเอ่ยพลางเลื่อนมาจับข้อมือของอีกฝ่าย..


แม้จะเอ่ยไปเช่นกัน.. แม้จะถามตัวเองถึงสิ่งนี้

แต่ในใจนั้น...


เขามองฮิจิริคาวะที่เม้มปากแน่นก้มหน้าลงอยู่ครู่หนึ่ง..

               ฮิจิริคาวะ?ขณะกำลังจะกระชับมือกลับถูกปัดทิ้งเสียอย่างนั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลย..

โครงหน้าสวยได้รูปนั่นโน้มลงใกล้ปิดตาลงยามที่กลีบปากนุ่มเบียดลงแนบสนิท เม้มลงซ้ำที่ริมฝีปากอุ่นพยายามแทรกปลายลิ้นเข้ามาอย่างไม่ชำนาญเท่าไหร่ ไม่นานนักเมื่อเขาตอบรับสัมผัสก็พลิกมาเป็นฝ่ายคุมเกมได้อย่างง่ายดาย เรือนร่างเปลือยขยับไปมาเสียดสีอยู่ที่เบื้องล่างจนร้อนผ่าว

ว่ารู้สึกดีแค่ไหน..

ถูกผละออกเล็กน้อยพอให้สูดอากาศหายใจก่อนจะถูกแนบจูบลงอีกครั้ง เสียงซองกระดาษฟรอยด์ถูกฉีกกลิ่นจางรสหวานโชยมา รับรู้สึกสัมผัสนุ่มของฝ่ามือที่เข้าประคองไว้อย่างสั่นๆบนกายร้อนค่อยๆถูกโชลมลงด้วยของเหลวใส เคลื่อนกายให้สะโพกลอยอยู่เหนือส่วนนั้น

เขาเบือนหน้าเล็กน้อยพอให้หลุดออกจากจูบ อีกฝ่ายเลิกคิ้วจ้องตามองอย่างสงสัย

               เดี๋ยวก็เจ็บหรอก..เพราะต้องการจะเอ่ยเตือน แต่เหมือนอีกคนจะไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไหร่

               ..ฉันไม่สน…อ-อึก..ฮิจิริคาวะกัดฟันแน่นขณะพยายามดันร่างของเขาให้ฝืนแทรกเข้าไปข้างในตัว

เบียดเสียดให้รุ่มสุมอยู่ที่กลางตัว แรงตอดรัดแน่นจากร่างที่กำลังปรับตัวให้คุ้นชินซึ่งกำลังนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ หลุดเสียงร้องครางดังจากลำคอลอดออกมาที่ริมฝีปากที่พยายามเม้มแน่น นิ้วยาวจากมือทีเอื้อมไปหาแตะลงที่ปลายคางก่อนลากย้อนขึ้นไป สอดเข้าที่รอยแยกให้กลีบปากนุ่มเผลอออก

               ฮ..อ๊ะ..แว่วเสียงร้องครวญหลุดขณะร่างเร่าอยู่เหนือตัวพยายามกดสะโพกให้ลดลงต่ำ

ซี่ฟันกัดลงยังนิ้วในโพรงปากระบายความร้าวที่แล่นขึ้นมาจากช่วงล่าง คาวกลิ่นเหล็กเจืออยู่ด้านใน ปรือตาที่คลอน้ำใสมองใบหน้า เร็นขยับร่างดึงตัวให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจับที่แขนเรียวให้ยกขึ้นมาโอบร่างของตนไว้

ที่ได้สัมผัส

               ไม่ต้องเกร็งนะ..มาซาโตะพูดพร้อมไล่จูบประโลมปลอบจนทั่ว อาการเกร็งของร่างที่บีบรัดอยู่ก่อนหน้าเริ่มคลายลงจนไม่นานก็ทิ้งตัวลงมาจนสุดทำให้เขาเผลอครางต่ำออกมาเบาๆ

นิ้วที่ถูกกัดเสียเลือดซึมถูกปลายลิ้นอุ่นตวัดดุนคล้ายไล่ให้ถอนออกมา ของเหลวเยิ้มสีใสยืดเป็นสายยาวก่อนจะขาดจากกันหยดลงเปื้อนไว้ที่มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย

ร่างกายของทั้งสอง..เริ่มที่จะคุ้นชิน มือบางเลื่อนลงเชยคางของคนผิวแทนให้เงยขึ้น จรดจ้องด้วยสายตายั่วยวน ส่วนแขนอีกข้างเขยิบขึ้นมาโอบไว้ที่หลังต้นคอพร้อมโน้มลงขบเข้าที่ใบหูอย่างนึกสนุก

               “!!!” ร่างพลันสะดุ้งโหยงจากสัมผัสนั่น พยายามขยับศีรษะหลบแต่ก็ไม่พ้น ขยุกขยิกอย่างไม่เป็นสุขจนต้องจัดการด้วยการจับสะโพกนั่นไว้ให้ยกขึ้นแล้วกดลงจนอีกฝ่ายร้องครางเสียงหลงรีบซุกใบหน้าลงบนศีรษะเขา

ร่างที่คร่อมอยู่บนตักนั้นค่อยๆขยับอย่างช้าๆโดยมีเขาช่วยประคองไว้

               อา..อ..อื้อ...

ความกระสันซ่านแล่นไหลไปทั่วร่างจนเริ่มที่จะคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ เอวคอดขยับขึ้นลงด้วยจังหวะที่เร่งขึ้นกระเพื่อมหอบหายใจแรงสลับเสียงคราง เหงื่อผุดพรายอาบทั่วทั้งตัวและระเหยออกไปด้วยความร้อนบนผิวกาย แวะหยอกขบเล่นยังยอดอกชวนร่างให้กระตุกเป็นพักๆจนเริ่มแข็งเป็นไต จูบลงซ้ำก่อนจะไล่ฝากรอยสีกุหลาบไว้เป็นทาง

แรงเสียดสีเพิ่มความร้อนของกายที่สุมอยู่ กระแทกลงซ้ำๆสนองความปรารถนาที่อยากจะปลดปล่อย สติเริ่มจะพร่าเลือนเมื่อใกล้จะถึงขีดสุดของอารมณ์ จนทะลักล้นไหลลงไปตามขาคู่เรียวสั่นระริก เปรอะลงบนหน้าท้องกับผ้าปูเตียง

ขณะยกร่างอีกฝ่ายขึ้นเพื่อถอนกาย ปลายเล็บจิกแรงลงบนแผ่นหลังของเขาก่อนร่างของฮิจิริคาวะออกเกร็งแล้วฟุบหน้าลงกับไหล่

               มาก..มากกว่านี้..เร็นกระซิบเสียงพร่าพร้อมส่งสายตาเว้าวอน ลูบลงบนใบหน้าแล้วแนบจูบเบาๆก่อนจะผละออก
ทิ้งร่างลงนอนราบไปกับเตียงนุ่ม อีกทั้งยังดึงร่างของเขาให้ขึ้นไปคร่อมอยู่เหนือตัว

ได้โอบกอดอีกครั้ง

ไม่อยากหักห้ามใจได้อีกแล้ว..แม้จะรู้ว่ามันผิดก็ตาม..

ทวีความร้อนแรงที่โถมเข้าใส่สะเทือนสั่นไปยังพื้น เบียดเสียดร่างเข้าหากันจนแทบหลอมเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางผสานกันเป็นทำนองในบทรักสลับด้วยคำพูดที่พร่ำบอกซ้ำๆ ร่างกระตุกเกร็งอีกครั้งเมื่อถึงยังปลายทางฉ่ำเยิ้มไปด้วยหยาดรักบนต้นขา เร็นพรมจูบลงยังบนเปลือกตาไล่ลงมายังแต้มของไฝสเน่ห์อ้อยอิงอยู่สักพักก่อนจะถูกมือดันให้ออกห่าง

ยิ้มมองอย่างใคร่รักแล้วเริ่มคลอเคลียอย่างออดอ้อน แขนช้อนไว้ใต้ร่างของคนหอบรั้งร่างให้ชิดกันแล้วเริ่มฝากรอยจูบไว้บนผิวกาย แต่กลับถูกนิ้วแตะลงบนริมฝีปากเพื่อบังไว้

               ..เลื่อนขึ้นมาอีกสิเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากเจ้าของใบหน้าที่แดงก่ำ

เร็นเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ฮิจิริคาวะที่เห็นดังนั้นจึงเอ่ยต่อให้หายสงสัย

               ถ้าไม่ทำไว้ตรงที่ให้เห็น..จะทำไปทำไมกันล่ะ?คำเฉลยนั่นทำให้ต้องประหลาดใจ

ทั้งที่เมื่อก่อนเคยห้ามแท้ๆ..
นี่ก็เรียนรู้มาจากคนแย่ๆคนเดิมงั้นสินะ.. เขาขยับยิ้มขณะที่นึกในใจ

               ครับๆ..เขารับอย่างว่าง่ายก่อนจะทำตามคำสั่งนั้น

ลำคอขาวถูกเม้มจูบลงจนขึ้นเป็นสีเลือดฝาดอยู่สองสามรอยแล้วเริ่มลงลงมาเรื่อยๆจนฝากไว้ทั่วช่วงบน มือเรียวเอื้อมลูบบนเส้นผมสีน้ำตาลทองก่อนจะโน้มลงมาจนสันจมูกชนกัน


ทั้งสองขยับยิ้มบางๆแล้วส่งเสียงหัวเราะ นัยน์ตาที่จ้องกันนั้นกำลังสื่อสารกันถึงเรื่องที่ทั้งคู่ต่างรู้ดี

โน้มลงมอบจูบให้แก่กันอีกครั้งอย่างดูดดื่มโดยที่ยังคงสบตากันอยู่ไม่กะพริบ

เนิ่นนานแม้จวนเจียนจะขาดอากาศ..แต่ต่างฝ่ายต่างไม่อยากที่จะผละออกจากกัน

ราวกับว่า..หากแยกจากแล้วคงจะขาดใจ



มือเคลื่อนเข้าประสานไว้ด้วยกันสอดนิ้วเข้าหาพลางกำไว้ให้แน่น..

แต่ไม่อาจสนิท..

ด้วยแหวนเงินบนนิ้วนาวนั่นที่คั่นกลางอยู่ระหว่างทั้งสองคน



จูบสุดท้ายนี้ทำให้พวกเขายังคงแนบชิด..




ตราบจนกว่าช่วงเวลานี้จะจบลง



-END-

1 ความคิดเห็น:

  1. เวลาคุณนายอยากนอกลู่นอกทางต้องดื่มสินะ ฟฟฟฟฟฟ
    คุณนายเซะซี่ร้อนแรงดีจัง หลง....

    ว่าแต่คุณนายแต่งยังเนี่ย?

    ปล. โอนิเหมาะกับการแต่งเรื่องสั้นดีนะ 5555555

    ตอบลบ